พอดีว่า ได้ไปทำความรู้จัก เรื่องที่หยิบยกขึ้นมาทำเป็นหัวข้อครั้งนี้ เนื่องจากว่า ไม่ทราบมาก่อนถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ SPLA ซึ่งได้เข้าไปเห็นเข้าที่เวบนึง เลยเอาเข้ามาอ้างอิง เผื่อเป็นประโยชน์ทั้งฝ่าย End Users และ Customer เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจได้ตรงกัน ซึ่งผมเองก็ต้องทำความเข้าใจด้วยเช่นกัน... : )
ทำความรู้จักกับ SPLA
Microsoft มีการกำหนดสิทธิการใช้งานซอฟต์แวร์ (Licensing) ออกเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ FPP (Box), OEM, Volume License, Open License, Select License ซี่งสิทธิการใช้งานประเภทต่างๆ ดังที่กล่าวมา มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า อนุญาตให้ใช้ได้ภายในองค์กร เท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้ ในธุระกิจที่มีลักษณะการ ให้บริการ อาทิเช่น Hosting Provider, Dedicated Server และ Co-Location เป็นต้น
ดังนั้น หากองค์กรใด นำซอฟต์แวร์ มาใช้อย่างผิดประเภท นอกเหนือจากสิทธิที่ได้รับ ย่อมถือว่ามีเจตนา ที่จะละเมิดลิขสิทธิของผู้อื่น ซึ่งจะมีผลทำให้องค์กร ได้รับผลกระทบทางด้าน กฎหมาย และ ความน่าเชื่อถือ SPLA (Service Provider License Agreement) เป็นสิทธิการใช้งานซอฟต์แวร์ อีกประเภทหนึ่ง ที่ทาง Microsoft ออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับผู้ให้บริการ ASP (Application Service Provider), Web Hosting Provider, Dedicated Server และ Co-Location โดยเฉพาะ SPLA เป็นสิทธิการใช้งาน แบบเช่าใช้รายเดือน อนุญาตให้สมาชิก (SPLA Subscriber) นำซอฟต์แวร์ต่างๆ มาใช้ในธุระกิจการให้บริการ แบบไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้งาน ดังนั้น SPLA จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด สำหรับผู้ให้บริการ ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือ ปกป้ององค์กร และลูกค้า จากปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์
จุดเด่นของการใช้ SPLA
- ถูกต้องตามเงื่อนไขการใช้งานของไมโครซอฟท์
- มีความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน
- ลงทุนในครั้งแรกน้อย หรือ ลงทุนระยะยาวก็คุ้ม สามารถอัพเวอร์ชั่นได้ตลอด
SPLA เหมาะกับกิจการใด้บ้าง
- กิจการ Web Hosting , Dedicated , Co-location
- โครงการระยะสั้น 1-6 เดือน
- โครงการระยะยาวที่ ต้องการใช้่ software ที่อัพเดท ตลอด
- องค์กรทั่วไป หรือ office ทั่วไป
- องค์กรที่ต้องการลดต้นทุน เรื่องลิขสิทธิ์
ที่มา และ ข้อมูลเพิ่มเติม
SPLA.IN.TH
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment