วิธีประหยัดพลังงานมือถือ

Wednesday, June 29, 2011
วิธีประหยัดพลังงานมือถือ

ปิดโทรศัพท์ลงเมื่อไม่ได้ใช้งาน
วิธีนี้อาจจะเป็น วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและเรียบง่ายต่อการถนอมการใช้งานแบตเตอรี่ เพราะอะไร? วิธีนี้จะช่วยประหยัดพลังงานและยังชาร์จ โทรศัพท์ของคุณ หากคุณยังไม่ได้วางแผนในการตอบรับโทรศัพท์ขณะที่คุณกำลังนอนหลับหรือหลังชั่วโมงทำงาน เพียงแค่ปิดโทรศัพท์ลง ทำเช่นเดียวกันถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีการรับสัญญาณไม่ดี (เช่นรถไฟใต้ดินหรือ พื้นที่ห่างไกล).โทรศัพท์บางชนิดมีคุณสมบัติประหยัดพลังงานอัตโนมัติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาทีที่ไม่มีการใช้บริการสัญญาณ จะเข้าสู่โหมดการประหยัดพลังงาน ถ้าคุณไม่จำเป็นต้องใช้รับหรือโทร ซึ่งจะมีโหมดนี้ใช้อยู่ในโทรศัพท์ที่เป็น สมาร์ทโฟนเป็น PDA,  ปิดการใช้งานฟังก์ชั่นโดยผ่านโหมด ที่เรียกว่า ไฟร์ทโหมด (Flight Mode)

หยุดการค้นหาสัญญาณ
เมื่อคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณมือถือไม่ดี มือถือของคุณเองจะมองหาการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นและจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย การทำเช่นนี้เป็นที่เข้าใจได้ง่าย ถ้าคุณเคยลืมปิดมือถือของคุณในขณะอยู่บนเครื่องบิน (Flight Mode) จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน คือการทำให้โทรศัพท์ของคุณ ได้รับสัญญาณที่ดีคือการนำโทรศัพท์ไปรับสัญญาณในพื้นที่ ที่ดี สะดวกต่อการรับ-ส่ง สัญญาณ

เปลี่ยนการใช้โหมดสั่นบนมือถือ ไปเป็นการใช้เสียงเรียกเข้าแทน
ฟังก์ชั่นสั่นจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพิ่มเติม และพยายามปรับการใช้เสียงเรียกเข้าในระดับที่เหมาะสม

ปิดการใช้งานแสดงไฟทางพื้นหลังของโทรศัพท์ (Back Light)
ไฟพื้นหลังป็น สิ่งที่ทำให้ข้อความบนโทรศัพท์อ่านง่ายขึ้นในแสงจ้าหรือภายนอก แต่แสงยังใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ หากคุณปิดการใช้งานการแสดงไฟพื้นหลังเสีย, แบตเตอรี่ของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น หากถ้าคุณต้องใช้ไฟพื้นหลัง โทรศัพท์จำนวนไม่น้อยจะให้คุณสามารถกำหนดระยะเวลาหรือร่นระยะเวลาที่จะออกจากโหมดการแสดงไฟทางพื้นหลัง โดยปกติ 1-2 วินาทีจะเพียงพอ โทรศัพท์บางชนิดจะมีเซ็นเซอร์วัดแสงโดยรอบซึ่งสามารถ ปิดการใช้งานการแสดงไฟพื้นหลังกลับมาในสภาพที่สดใสและเปิดใช้งานได้ในขณะที่การแสดงผลในที่ที่มีแสงน้อย

หลีกเลียงการใช้งานในลักษณะที่ไม่จำเป็น
ถ้าคุณรู้ว่าโทรศัพท์จะใช้งานได้อีกสักระยะนึง เนื่องมาจากแบตเตอรี่ใกล้หมด ให้หลีกเลี่ยงหรือระงับการใช้กล้องหรือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต,งดการใช้โหมดการถ่ายภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้โทรศัพท์
ของคุณเขมือบพลังงานจากแบตเตอรี่ให้หมดเร็วขึ้นนั่นเอง

รักษาระยะเวลาในการพูดโทรศัพท์
พยายามสนทนาไม่ให้ยืดยาวเกินไป กระชับ และได้ใจความ แต่มีกี่ครั้งที่คุณได้ยินบางคน บอกว่าโทรศัพท์มือถือของพวกเขา"แบตเตอรี่กำลังหมด" แล้วการสนทนาของพวกเขาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายนาที? บางครั้งแบตเตอรี่หมด เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อให้ได้ปิดโทรศัพท์ (และดีอย่างหนึ่งที่ว่า) แต่ถ้าคุณต้องการจะประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่ จริงๆ, จงจำกัดเวลาในการสนทนาของคุณ

ให้ทำการปิดบลูทูธ
เมื่อไม่ได้ใช้งาน มันจะทำให้แบตเตอรี่ของคุณเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว

ให้ทำการปิดการใช้งาน วายไฟร์,จีพีเอส และ อินฟาเรด
สำหรับ ไวไฟร์ (WIFI), จีพีเอส (GPS) และอินฟาเรด (Infrared) ถ้าโทรศัพท์ของคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้ในโทรศัพท์ ให้พวกเขายกเลิกหรือปิดการใช้งาน เมื่อคุณต้องการประหยัดพลังงาน

ให้เปิดการใช้โหมด จีเอสเอ็ม แทนการใช้โหมด 3จี
การใช้มือถือของคุณในโหมด 3G / Dual Mode ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพเร็วกว่า การเปิดใช้งานแค่โหมด GSM เพียงอย่างเดียว อ้างอิงจากข้อมูลเฉพาะของโทรศัพท์คุณ และคุณจะเห็นมันใช้พลังงานของแบตเตอรี่ ที่แตกต่างกัน ระหว่างการใช้งานแบบ 2 แบบนี้ -- โดยปกติแล้ว 50 % ที่เพิ่มขึ้น
เนื่องมาจากการใช้ GSM เพียงอย่างเดียว


หลีกเลี่ยงการใช้ภาพแบ๊คกราวที่เคลื่อนไหวได้
กับสมาร์ทโฟน, หลีกเลี่ยงการใช้แบ๊คกราวเคลื่อนที่หรือรูปภาพอนิเมชั่น หรือวิดีโอสำหรับพื้นหลังของคุณ การทำให้แบ๊คกราว(ภาพพื้นหลัง) เคลื่อนไหวจะใช้พลังงานแบตเตอรี่หมดเร็วอีกด้วย

หากเป็นไปได้ ให้ใช้งานสีแบ๊คกราวสีดำ
จอ AMOLE ใช้ไฟจากแบตเตอร์รี่ไม่น้อยเลย หากตั้งค่าหน้่าจอด้วยสีดำแทนสีขาว
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเปิดเวบบราวเซอร์ดูเวบ bGoog.com ซึ่งจะใช้หน้าจอแบ็คกราว 'สีดำ' แทน 'สีขาว' เป็นต้น

การยืดอายุใช้งานของแบตเตอรี่

1.ให้วอร์มแบตเตอรี่ก้อนใหม่เสมอ
แบตเตอร์รี่ก้อนใหม่ ควรจะทำการชาร์จให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรกเพื่อให้ได้การชาร์จความจุที่มากที่สุด
แบตเตอร์รี่แบบนิเกิล ควรจะชาร์จให้ครบ 16 ชั่วโมงก่อน เพื่อให้ไปสู่การชาร์จแบบวนรอบใน 2-4 ครั้ง
ขณะที่ ลิเธียม-ไอออน จะชาร์จในเวลาที่น้อยกว่า คือใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง โดยการเพิกเฉยของโทรศัพท์ที่บอกคุณว่าโทรศัพท์ชาร์จเต็มแล้ว

2.เก็บรักษาแบตเตอรี่ให้อยู่ในที่เย็น
ใส่แบตเตอร์รี่ในตู้เย็น แบตเตอร์รี่ของคุณจะใช้งานได้นาน (หากใช้ ณ.อุณหภูมิห้อง) และไม่ต้องอัดสิ่งใดๆ เพิ่มเข้าไปในแบตเตอร์รี่ เพราะจะทำให้เกิดระเบิดขึ้น ขณะที่คุณไม่สามารถควบคุม อุณหภูมิขณะนั้นได้ และคุณสามารถหลีกเลี่ยงการนำโทรศัพท์ไปวางในรถขณะที่รถมีอุณหภูมิร้อนหรือโดนแสงแดดโดยตรง และหลีกเลี่ยงการนำโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าขณะที่ตัวเรามีอุณหภูมิสูง นอกจากนี้แล้ว ให้ตรวจสอบแบตเตอร์รี่ขณะชาร์จ หากดูเหมือนว่ามันร้อนเกินไป ให้สันนิษฐานว่าที่ชาร์จมีการทำงานที่ไม่ถูกต้อง

3.เปลี่ยนแบตเตอรี่ของคุณให้ถูกต้องตามชนิดของแบตเตอรี่นั้นๆ
โทรศัพท์มือถือส่วนมากเป็นแบตเตอร์รี่แบบลิเธียม ไอออน ขณะที่โทรศัพท์มือถือรุ่นก่อนหน้านี้ถ่านแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ จะเป็นแบบ
นิกเกิล ซึ่งเราสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ด้านหลังแบตเตอรี่หรือข้อมูลทางเทคนิคเพื่อตรวจสอบดูข้อมูลอีกครั้ง

4.เก็บรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกต้อง
หากแบตเตอรี่ของคุณไม่ได้ใช้งานขณะนึง ให้เราถอดออกจากตัวเครื่องแล้วทำการเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น แต่ไม่ถึงขนาดแช่ในห้องแช่แข็ง(ในตู้เย็น)
ห้ามทำการเก็บไว้กับวัสดุที่เป็นเหล็กและใกล้กับแผงวงจร และให้นำแบตเตอรี่ออกจากตู้เย็นและวางทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง ก่อนนำกลับมาใช้อีกครั้งนึง
แบตเตอรี่ที่เป็นแบบ ลิเธียมไอออน มีค่าที่เป็นอ๊อกซิไดซ์น้อย เมื่อเก็บไว้จากการชาร์จเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคยเก็บแบตเตอรรี่ลิเธียม แบบโวลต์เตจต่ำ ให้ทำการชาร์จใหม่อีกครั้ง
หลังจากเก็บไว้

5. ให้ทำความสะอาดมือถือและลบรายชื่อผู้ติดต่อที่มีชื่อซ้ำกัน
หลายครั้ง รายชื่อติดต่อเพื่อนๆมีเยอะมากมาย ควรที่จะมีเวลาในการจัดการรายชื่อผู้ติดต่อที่ใช้อยู่และไม่ได้ใช้แล้ว ออกไปบ้าง ซึ่งมันทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ขณะโอนถ่ายข้อมูลลดลง ในอีกทางนึง เราสามารถทำความสะอาดมันได้โดยใช้คอตตอนบัตและแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดแผงคู่ที่เป็นทองแดงตรงขั้วที่สัมผัสแบตเตอรี่ หรืออาจจะใช้แอลกอฮอล์เช๊ดหน้าหรือน้ำยาล้างเล็บ ทำความสะอาดแทนก็ได้เหมือนกัน

การสังเกตุอาการแบตเตอรี่เสื่อม

- ระยะเวลาการใช้งานสั้น หลังจากชาร์จเต็มแล้วไม่นาน
- แบตเตอรี่เปลี่่ยนลักษณะในแบบ ร้อนแบบผิดปกติ ระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ครั้งใหม่
- แบตเตอรี่เปลี่ยนลักษณะในแบบ ร้อนแบบผิดปกติ ระหว่างการใช้โทรศัพท์
- ช่องใส่แบตเตอรี่ สามารถสังเกตุได้จากความรู้สึกและการตรวจดูผิวภายในและผิวภายนอก ของที่ใส่แบตเตอรี่ โดยการใส่แบตเตอรี่เข้าไปในช่องใส่แบตเตอรี่ ซึ่งมันควรจะใส่ได้พอดีกับช่องวางแบตเตอรี่ และแลดูเรียบร้อย ใส่แล้วไม่หลุดออกจากตัวช่องใส่แบตเตอรี่้
- ถ่านแบตเตอรี่ถูกพัฒนาให้เป็นจุดที่ยากมาก ตรวจสอบผิวภายในและผิวภายนอกโดยใช้นิ้วกดเบาๆและปาดบนพื้นผิวของตัวแบตเตอรี่ โดยใช้ระหว่างนิ้ว


ที่มา:Wiki How

1 ความคิดเห็น:

  • mrgimyong

    สาเหตุของการทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว

    - การที่ลงโปรแกรมที่มากเกินไปและเปิดใช้งานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
    - ประมวลผลข้อมูลเยอะมาก ณ.เวลาใดเวลาหนึ่ง
    - การใช้ภาพแสดงผลเป็นกราฟฟิคสูง ขณะทำงาน เช่น วีดีโอ,สตรีมมิ่ง หรือพวกไฟล์ภาพที่มีความละเอียดสูงนั่นเอง

    การทำงานในโหมดใช้งานกราฟฟิคสูง
    - ติดตั้งโปรแกรมให้พอเหมาะต่อการใช้งาน
    - ให้ทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกเท่าที่จำเป็น โดยมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่จำกัดต่อการใช้งาน
    - ปิดหรือระงับใช้บริการที่ไม่ค่อยได้ใช้งานลง
    - ปรับระดับความละเอียดของหน้าจอให้พอเหมาะหรือเหมาะสมต่อการใช้งานหรือแสดงผล

    การทำงานในโหมดเพื่อการทำงานประมวลผลข้อมูล
    - ปิดการใช้งานโหมดกราฟฟิคบางอย่างลง
    - ลงโปรแกรมเฉพาะกับงานนั้นๆ เช่น ติดตั้งโปรแกรมประมวลผลข้อมูล ก็ใช้ในงานทางด้านประมวลผลข้อมูล เป็นต้น
    - ปิดหรือระงับใช้บริการที่ไม่ค่อยได้ใช้งานลง

  • Post a Comment

    blogger visitor counter